รอยย่นและรอยตีนกา

งานมีผลต่อความอ้วน น้ำหนักตัวที่มากเกินเกณฑ์ย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายในฐานะที่เป็นตัวเพิ่มปัจจัยเสี่ยงโรคต่างๆ ทั้งเบาหวาน ความดันเลือด หัวใจ และสุขภาพใจ หลายคนจึงมีความพยายามที่จะลดน้ำหนักตัวให้อยู่เกณฑ์ ทว่าก็อาจจะประสบอุปสรรคต่างๆ สิ่งหนึ่งที่มีผลคือลักษณะของการทำงาน ดังบทความวิจัยโดยคณะนักวิจัยจากมลรัฐโอไฮโอที่ตีพิมพ์ใน American Journal of Preventive Medicine ปีนี้   คณะนักวิจัยนำทีมโดย Luckaupt ได้นำข้อมูลเมื่อปี พ.ศ. 2553 ของโครงการสำรวจสุขภาพโดยการสัมภาษณ์ระดับชาติ จากอาสาสมัครชาวอเมริกันวัยทำงาน จำนวน 15,124 คน ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า มีอาสาสมัครที่อ้วนอยู่ถึง 27.7% เมื่อพิจารณาปัจจัยเกี่ยวกับการทำงาน คณะนักวิจัยพบว่าผู้ที่มีชั่วโมงทำงานเกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เป็นโรคอ้วนมากกว่าผู้ที่มีชั่วโมงทำงานระหว่าง 35-40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ถึง 8% และเป็นที่แน่นอนว่าสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ไม่เอื้อต่อสุขอนามัย เพิ่มความชุกต่อการเป็นโรคอ้วนถึง 13%   เมื่อวิเคราะห์ถึงประเภทของงาน/อุตสาหกรรม (industry) ของอาสาสมัครแต่ละคน ผู้ที่ทำงานในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ และบริการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีความชุกของการเป็นโรคอ้วนลดลง ในขณะที่ผู้ที่ทำงานในอุตสากรรมด้านการดูแลสุขภาพและสังคมสงเคราะห์ และงานด้านรัฐประศาสนศาสตร์ กลับมีความชุกของการเป็นโรคอ้วนเพิ่มขึ้น และเมื่อวิเคราะห์ถึงประเภทของอาชีพ...

#สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) #เครื่องปั่นน้ำผลไม้แบบพกพา #เครื่องทำสมูทตี้ #เครื่องทำอาหารเด็ก #เครื่องปั่นพกพา #เครื่องปั่นมินิ #แก้วปั่นมินิ #เครื่องปั่นผลไม้ #MiniJuicerThailand #Vitamer #เครื่องปั่นน้ำผลไม้แบบพกพา Vitamer #แก้วปั่นพกพา Vitamer
อ่านเนื้อหาทั้งหมด เครื่องปั่น เครื่องปั่นน้ำผลไม้แบบพกพา เครื่องทำอาหารเด็ก เครื่องทำสมูทตี้ เครื่องทำอาหารสำหรับผู้ป่วย

เครื่องปั่นน้ำผลไม้

เครื่องปั่นพกพา แก้วปั่นมินิ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทดสอบ‘นิสสัน เทอร์รา’ กลางแดนภูเขาไฟ‘พินาตุโบ’ ประเทศฟิลิปปินส์

จีนอ้าง ควบคุมเทียนกง-1 ได้ รับรองไม่ตกใส่หัวใคร

เปิดราคาพาฝัน MERCEDES AMG C43 ประกอบไทย ถูกลง 1,050,000 บาท!